ติดตามความคิดเห็นของคนสังคมโซเชียว เกี่ยวกับการลดการใช้ถุงพลาสติกได้จริงไหมหากมีการเบลอภาพถุงพลาสติกในทีวี
การลดการใช้ถุงพลาสติก หลังจากที่ช่วงนี้มีการรณรงค์การงดใช้ถุงพลาสติกในทุกๆที่ รวมถึงตอนนี้ทางกรมการส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ประสานงานกับทางสถานีโทรทัศน์บางช่องให้เบลอภาพการใช้ถุงพลาสติกในทีวี เพื่อหวังกระตุ้นให้คนไทยเลิกใช้ถุงพลาสติกแล้วหันมาใช้ถุงผ้าแทน ภายใต้โครงการ “ ทำดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก “ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563
ซึ่งหลังจากที่ทีวีบางช่องได้ทำการเบลอภาพถุงพลาสติกก็มีบางเพจมาตั้งกระทู้ถามคนในโซเชียวว่าการเบลอภาพถุงพลาสติกในทีวีจะช่วยให้คนไม่ใช้ถุงพลาสติกได้จริงหรือไม่ ซึ่งต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าการเบลอภาพถุงพลาสติกไม่ได้ช่วยอะไรเพราะมันก็จะเหมือนกับการสูบบุหรี่ที่ถึงจะห้ามจะเบลอภาพยังไงคนก็ยังสูบบุหรี่อยู่เหมือนเดิม แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ออกมาสนับสนุนการเบลอภาพถุงพลาสติกเผื่อว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้
โดยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่า โครงการ “ ทำดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก “ จะได้ผลเพราะการที่คนทั่วไปจะซื้อของคงไม่มีใครจะฉุกคิดเรื่องการถือถุงผ้าไปใส่ของกันหรอกและที่สำคัญสินค้าบางอย่างก็ใส่ถุงผ้าไม่ได้ต้องใส่ถุงพลาสติกเพราะอาจเปียกน้ำ ที่สำคัญใครจะมีความขยันพอที่จะพกถุงผ้าติดตัวตลอดเวลา โครงการนี้ทำได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องกลับมาใช้ถุงพลาสติกกันเหมือนเดิมแน่นอน
ทางที่ดีควรเปลี่ยนวิธีการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกเป็นแบบอื่น หรือควรจะรณรงค์การแยกขยะเหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นทำจะง่ายกว่า ซึ่งตอนนี้ยังเป็นการเริ่มโครงการในช่วงแรกๆ บางพื้นที่ยังมีถุงพลาสติกใส่ให้ลูกค้าแต่หากมีการเลิกไม่ให้ใช้เลย รับเรื่องว่าต้องมีเสียงโวยวายจากประชาชนมาถึงรัฐบาลแน่นอน
เพราะการที่ซื้อของเยอะๆแล้วไม่มีถุงใส่มันลำบากมาก จากที่ทางห้างสรรพสินค้าเคยมีการทดลองเริ่มงดการใช้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 4 ของเดือนมาสักระยะหนึ่งบอกเลยว่า เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ไปซื้อของในวันที่ 4 เพราะไม่สะดวกที่จะหิ้วของโดยที่ไม่ใส่ถุง เพราะการซื้อของแต่ละครั้งซื้อเยอะมาก ถึงแม้ทางห้างสรรพสินค้าจะแก้ไขด้วยการเตรียมกล่องกระดาษมาใส่ให้แทนแต่การต้องถือกล่องใบใหญ่ๆ
มันก็ไม่สะดวกอยู่ดี คงต้องรอดูกันต่อไปว่าโครงการรณรงค์ลดการถุงพลาสติกของรัฐบาลในครั้งนี้จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน และหากไม่ได้ผลทางรัฐบาลจะมีวิธีการแก้ไขได้อย่างไร คาดว่าไม่เกินหนึ่งเดือนพวกเราคงได้รู้กัน